วัตถุมงคล: พระเครื่องเกจิอาจารย์สายภาคกลาง
พระเนื้อตะกั่วผสมปรอท พิมพ์พระพุทธสองหน้า ฝังเขี้ยวหมาป่าอาถรรธ์ หลวงพ่อดำ วัดกุฏี (องค์ที่ 6) 27-10-2567 เข้าชม : 8025 ครั้ง |
| [ ชื่อพระ ] พระเนื้อตะกั่วผสมปรอท พิมพ์พระพุทธสองหน้า ฝังเขี้ยวหมาป่าอาถรรธ์ หลวงพ่อดำ วัดกุฏี (องค์ที่ 6) | [ รายละเอียด ] พระเนื้อตะกั่วผสมปรอท พิมพ์พระพุทธสองหน้า ฝังเขี้ยวหมาป่าอาถรรธ์ หลวงพ่อดำ วัดกุฏี จัดสร้างราวปี พ.ศ.๒๔๐๒-๒๔๓๐ (องค์ที่ 6) ยุคแรกๆ อีกหนึ่งสายเหนียวแห่งเมืองปราจีนบุรี หลวงพ่อดำ วัดกุฎี เป็นพระธุดงค์ชาวเขมรมาจำพรรษาที่วัดกุฎี หลวงพ่อมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า ไม่มีใครทราบประวัติที่ชัดเจนของท่าน ท่านสำเร็จวิชาโส่ฬสดังเช่นเจ้าคุณเฒ่าวัดหนังสามารถเรียกปรอทได้ ท่านได้สร้างพระปิดตาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท่าน โดยสร้างจากเนื้อตะกั่วผสมปรอทที่ท่านเรียกเอง จึงจัดเป็นพระยุคแรกๆ ของท่าน เข้มขลัง ตามประวัติเล่ากันว่าพระชุดนี้ สร้างก่อนปี ๒๕๐๐ คือจัดสร้างราวปี พ.ศ.๒๔๐๒-๒๔๓๐ นั้นเอง ผู้ที่ไช้วัตถุมงคลของท่านเล่ากันว่า สุดยอดประสบการณ์ แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันยิ่งพิมพ์สองหน้าด้วยแล้ว นับว่าหาชมได้ยากยิ่งอีกละคราฟ **************************************************************************************************************************************หลวงพ่อดำ เป็นพระธุดงค์มาจากเขมร มาจำพรรษาอยู่วัดกุฏีน่าจะช่วงก่อน พ.ศ.๒๕๐๐ มรณภาพนานมากแล้ว พระท่านมีชื่อเสียงเรื่องคงกะพันมหาอุดมากป้องกันคุณไสย อาถรรพ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี หลวงพ่อดำธุดงค์มา วัดมีโบสถ์เก่าอยู่แล้ว หน้าโบสถ์จะมีสิงห์ตะกั่วคู่หนึ่งตั้งอยู่ ขนาดไม่ใหญ่มาก เด็กๆ แถววัดจะชอบแบกกันไปเล่นกันตามท้องนาเป็นที่สนุกสนาน แล้วเรื่องที่แปลกก็คือสิงห์คู่นี้ ต่อให้เด็กๆเล่นแล้วทิ้งไว้ตามท้องนา เช้ามาก็จะเห็นกลับไปตั้งอยู่หน้าโบสถ์ที่เดิมทุกครั้งไปโดยไม่มีใครทราบว่าใครเอามาไว้ที่เดิมสิงห์ตะกั่วคู่นี้หละครับ ที่มาของเนื้อตะกั่ว ของพระหลวงพ่อดำ ท่านนำมาหลอมสร้างพระของท่าน พร้อมฝังเขี้ยวหมาป่าแก้อาถรรพ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อดำ วัดกุฏิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งประวัติของหลวงพ่อดำท่านนี้ มีความไม่แน่ชัดสักเท่าไหร่ แต่กลับมีประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดเลื่องลือจากรุ่นสู่รุ่น ที่กล่าวขานกันถึงพระเครื่องเนื้อตะกั่วของหลวงพ่อดำ โดยสมัยนั้นช่วงในยุคของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยในจังหวัดปราจีนบุรีที่หลวงพ่อดำนั้นได้อาศัยจำพรรษอยู่ที่วัดกุฏิ หลวงพ่อดำท่านนี้ได้เล่ากันว่าท่านเป็นพระธุดงค์จากเขมรและได้มาจำพรรษาที่วัดกุฏิ ซึ่งมีพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับฝั่งเขมร โดยเป็นที่รู้กันดีว่า วิชามนต์ดำ,คุณไสย,ยาสั่ง,ตลอดจนภูตผีพลายกุมารรักยม เป็นที่ขนานนามว่าของเขมรนั้นแรงนัก ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นก็พากันหวาดกลัวกันไปทั่ว ร้อนจนถึงหลวงพ่อดำ วัดกุฏิ ซึ่งหลวงพ่อดำท่านนี้มีตบะวิชาแกร่งกล้า เนื่องจากท่านเป็นพระที่ชอบธุดงค์ ตามป่าเขาแถวตะเข็บชายแดนติดเขมร และที่แน่นอนว่าหลวงพ่อท่านเองท่านก็เป็นพระเขมรอยู่แล้วก็ต้องได้พบเจอกับการท้าทายจากมนต์ดำฝั่งเขมรกันอยู่เนื่องๆในครั้งที่ยังธุดงค์อยู่ พอมาครั้งนี้ก็มีข่าวที่ชาวบ้านพากันหวาดกลัวเกี่ยวกับคุณไสยมนต์ดำจากฝั่งเขมร หลวงพ่อดำท่านจึงได้เมตตาจัดสร้างวัตถุมงคลเนื้อตะกั่วซึ่งถือว่าเป็นรุ่นแรกๆของท่าน ไม่ว่าจะเป็นพระเนื้อตะกั่วพิมพ์พระปิดตาเกลอเดียว(พิมพ์ปักเป้า) ตลอดจนพิมพ์พระปิดตาห้าเกลอ หรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่า ปิดตาพวงชมพู่ห้าเกลอเนื้อตะกั่วหลวงพ่อดำ วัดกุฏิ ในการสร้างครั้งนั้นหลวงพ่อดำได้กดพุทธาคมเจาะจงเลยว่า ป้องกันคุณไสย,มนต์ดำ,อวิชชาต่างๆตลอดจนเกาะเพชรคงกระพันชาตรี ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากคมหอกคมดาบและอันตรายทั้งปวง พอหลวงพ่อดำได้สร้างเสร็จ ก็แจกจ่ายชาวบ้านให้พกติดตัวกันเอาไว้ โดยในครั้งนั้นก็มีประสบการณ์กันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มีโจรมาปล้นและมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น โจรได้ควักปืนมายิง แต่ปรากฏว่าปืนกลับยิงไม่ออก แต่เหตุการณ์นี้ก็ไม่ใช่เหตุการณ์เดียว ก็มีการกล่าวมานักต่อนักว่า โดนยิงไม่เข้าบ้างละ โดนโจรปล้นควักปืนมายิงแต่ปรากฏว่าปืนนั้นกลับระเบิดใส่ตัวของโจรเองจนเสียชีวิต พูดกันง่ายๆว่าแม้ในปัจจุบันก็มีประสบการณ์ที่ไม่แพ้ในยุคนั้นเลยทีเดียว ได้เล่ากันว่า พระชุดที่มีเขี้ยวหมาป่านั้น ครั้งตอนที่หลวงพ่อดำ ได้ออกธุดงค์ตามป่าตามเขาแถวตะเข็บชายแดน ท่านได้ไปเจอกับซากหมาป่าจำนวนหนึ่ง และในซากนั้นก็มีซากเสือโคร่งอยู่ไม่กี่ตัว ซึ่งในเหตุการณ์นี้อาจจะเป็นไปได้ว่า มีการต่อสู้กันระหว่างฝูงหมาป่ากับเสือโคร่งที่พลัดถิ่น จึงมีร่องรอยการต่อสู้และซากศพอย่างที่เห็น หลวงพ่อดำท่านได้มองเหตุการณ์นี้อย่างลึกซึ้งถึงความอาจหาญของหมาป่า แม้ว่าจะตัวเล็กกว่าสองเท่าแต่ใจนั้นไม่ต่างกับเสือโคร่งแม้แต่น้อย ดั่งคำที่ว่า เสือหลงป่า อย่าดูแคลนหมาเจ้าถิ่น หลวงพ่อดำท่านสังเกตจุดนี้จึงนำเขี้ยวของหมาป่ามาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดสร้างวัตถุมงคลของท่าน โดยเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นเครื่องรางที่หลวงพ่อดำท่านต้องการสะกดความเข้มขลังคงกระพันชาตรีและกำกับพระคาถาหัวใจราชสีห์ลงไปด้วยที่จะป้องกันและสะท้อนคุณไสย,มนต์ดำและอวิชชาต่างๆกลับไปหาคนผู้นั้น และการสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อดำท่านก็จะเป็นรูปแบบพระเนื้อชินตะกั่วฝังเขี้ยวหมาป่าเสียส่วนใหญ่ และสำคัญด้วยว่าท่านได้มีรูปแบบพิมพ์พระที่หลากหลายกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ปิดตา,พิมพ์พระพุทธและพิมพ์ต่างๆ มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ต่างวาระกัน ปัจจุบันพระชุดนี้ นับว่าหายากขึ้นทุกวัน แม้ราคายังเบาๆก็ตาม กลับหาตัวจริงจับยากเสียนี่กระไร
*******************
********************************************
ปล. พระชุดนี้ จะมีความ ความคล้ายคลึงกับพระเนื้อตะกั่วของ ญาท่านตู๋ วัดสุขาวาส อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ผู้สืบทอดสายวิชาสมเด็จ(สำเร็จ) ลุนแห่งนครจำปาศักดิ์ เป็นอย่างมาก หากแต่ของหลวงพ่อดำจะฝังเขี้ยว แต่ของญาท่านตู๋ จะมีทั้งแบบฝังและไม่ฝัง ชิ้นส่วนที่ฝังจะเป็น งากะเด็น ซะมากกว่า และการสร้างพระขอญาท่านตู๋ วัดสุขาวาส สร้างจากเนื้อตะกั่วผสมดีบุก สร้างแบบหล่อโบราณแล้วตัดช่อด้วยสิ่ว ด้านหลังมีรอยจารอักขระแบบขอม-ลาว พระหล่อบางไม่หนา น้ำหนักเบา จน มีคนเอาไปเล่นหา สับสน เพราะพระท่านมีหลากหลายพิมพ์ เช่นกัน แต่มีพิมพ์นึง ซึ่งสามารรถแยกแยะได้ ว่า เป็นพระคนละยุคกับหลวงพ่อดำคือ พิมพ์หลวงปู่ทวด ฝังเขี้ยว หรืองา ที่เล่นหาเป็นของ ญาท่านตู๋ วัดสุขาวาส ก็อนุมานได้ว่า พระพิมพ์หลวงพ่อทวดเกิดขึ้นครั้งแรกคือปี 2497 ซึ่งสร้างโดยพระอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ แต่ ดันมี พิมพ์หลวงปู่ทวดฝังเขี้ยวหมาป่า (ซึ่งถ้าเป็นของหลวงพ่อดำ ก็ต้องราวปี 2402-2446 ซึ่งห่างกันถึง 50 กว่าปี ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้) แต่ ญาท่านตู๋ วัดสุขาวาส ท่านมรณภาพ ราวปี 2506 ดังนั้น คาดว่า พระพิมพ์หลวงปู่ทวด ฝังเขี้ยว หรืองา สร้างใน ยุคของท่าน ไม่ใช่ ยุคหลวงพ่อดำนั้นเอง | [ ราคา ] ฿2500 [ สถานะ ] ขายแล้ว
[ติดต่อเจ้าของร้านเกจิน้อย พระเครื่องออนไลน์ ] เบอร์โทรศัพท์ : 081-4070684 | |
|