วันตรุษจีนปี2555 เขยิบใกล้่เข้ามาแล้ว สนุก! ท่องเที่ยว เลยอาสาขอชวนคุณอ่านทุกท่านไปไหว้พระทำบุญกันที่วัดจีนที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศ นั่นคือ วัดเล่งเนยยี่ 2 หรือ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ที่ตั้งอยู่ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และเป็นวัดจีนสาขา 2 ที่ใหญ่กว่า วัดเล่งเน่ยยี่ 1 วัดดังที่ย่านเยาวราช กรุงเทพฯ ที่งดงามตระการตาจนหลายคนเปรียบเปรยว่าเหมือนได้เดินอยู่ในพระราชวังจีน นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนที่เกิดปีชง มีความเชื่อว่าหากมาไหว้พระ ทำบุญ สะเดาะเคราะห์ฺ แก้ปีชง2555 แล้วจะเป็นสิริมงคลช่วยให้คลาดแคล้วจากภยันตรายทั้งปวง ส่วนใครปีนี้ที่ไม่เป็น ปีชง ก็สามารถแวะเวียนไปทำบุญไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยรับ วันตรุษจีน ของชาวจีนได้เหมือนกัน

วัดเล่งเน่ยยี่ 2 เป็นวัดจีนที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย มีพื้นที่ราวๆ 12 ไร่เศษ จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงครอง
สิริราชสมบัติครบ 50 ปี (ในปีพ.ศ. 2539) ที่อยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ แค่นิดเดียว ไม่ว่าจะขับรถหรือนั่งรถก็สบายๆใช้เวลาเดี๋ยวเดียวก็ถึง

แต่เดิมทีที่ตรงนี้เป็นเพียงแค่โรงเจขนาดเล็กซึ่งมีพื้นที่แค่ 2 ไร่ อันเป็นสถานที่ซึ่งชาวบางบัวทองให้ความเคารพนับถือมาก แต่ด้วยแนวคิดของ วัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส จากมติของคณะสงฆ์นิกายจีนแห่งประเทศไทยที่ดำริจะสร้างวัดจีนขึ้น จึงได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับ "เจ้าคุณเย็นเซี้ยว" (พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์) ได้ทำหน้าที่เป็นประธานที่ปรึกษาการจัดสร้างฝ่ายสงฆ์ ในการนี้ได้เปิดให้พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาได้มีโอกาสร่วมบุญในการจัดสร้างวัดแห่งนี้ด้วย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์นิกายจีนรังสรรค์" โดยมี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เสด็จทรงเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ของวัด

วัดเล่งเน่ยยี่ 2 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2539-2551 ก่อนที่ความยิ่งใหญ่อลังการและศิลปะความงดงามทางจิตวิญาณแห่งนี้จะปรากฏแก่สายตาชาวโลกดังที่เราได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน บริเวณโดยรอบของวัดมีการ
จัดเคลียพื้นที่จอดรถอย่างกว้างขวางทั้งสองด้าน แต่ถึงกระนั้นเราก็คิดว่าคงยังไม่พอ เพราะเหลือบไปเห็นป้ายบอกทางไปที่จอดรถของวัดจุดที่ 3 ซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลออกไป นั่นยืนยันถึงจำนวนผู้คนจำนวนมาก
ที่เดินทางมาถึงวัดแห่งนี้ในโอกาสสำคัญได้เป็นอย่างดี

วัดเล่งเน่ยยี่ 2 หันหน้าไปทางทิศใต้ ตั้งอยู่ในทิศขวางตะวัน ดังนั้นเราจึงสามารถถ่ายภาพได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกโดยมีมหาวิหารเป็นฉากหน้า หลังซุ้มประตูนั้นเรียงรายด้วยหุ่นศิลา "จับโป่ยหล่อหั่ง" หรือ 18 อรหันต์ รูปสลักลอยตัวแบบที่แกะจากหินทั้งก้อนอันแสดงถึงฝีมือในการสลักหินอย่างชัดเจน หากไปแล้วอย่าลืมสังเกตฐานล่างของหุ่นเหล่านี้ จะเห็นได้ทันทีว่า
มีที่มาจากหินทั้งก้อนจริงๆ วิหารหลังแรกที่ขึ้นไปถึงนั้นคือ "วิหารจตุโลกบาล" ซึ่งเต็มไปด้วยรูปเคารพของพระอรหันต์และพระโพธิสัตว์รวมทั้งเทพเจ้าตามคติความเชื่อแบบจีนสีทองอร่ามตา เป็นจุดแรกที่มีคนนิยมไหว้
ขอพรกันมาก

วิหารขนาดย่อมลงมาที่ตั้งอยู่ทั้งสองด้านก็คือ "หอกลอง" และ "หอระฆัง" ขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งมีการใช้งานจริงในฐานะที่เป็นเครื่องมือส่งสัญญาณในวาระต่างๆ ของวัดแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวัน ถัดจากนั้นเพียงบันไดหินอีกไม่กี่ขั้น ก็คือมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นพระอุโบสถของวัดภายในมีพระประธานสีทองขนาดใหญ่อยู่สามองค์คือ พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน), พระอมิตาภพุทธเจ้า 
และ พระไภษชยคุรุไวฑูรยพุทธเจ้า ซึ่งมีความสูงจากวัชรบัลลังก์ถึงยอดพระเกศา 4.02 เมตร กว้างถึง 3.08 เมตร และด้านบนเพดานของมหาวิหารนี้ก็ยังตกแต่งลวดลายและสีสันอย่างงดงามอร่ามตาตามแบบฉบับ
ของอารยะธรรมจีน

อาคารขนาดใหญ่อีกแห่งที่อยู่ด้านหลังก็มีความสำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ "วิหารพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์" เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางพันตาพันมือ ซึ่งแกะสลักจากไม้เนื้อหอมส่งตรงจากประเทศจีน 
มีความงดงามและน่าศรัทธาเป็นอย่างมาก ซึ่งวัดเล่งเน่ยยี่ 2 นี้ เปิดใ้ห้ให้บุคคลภายนอกได้เข้าสู่บริเวณวัดได้ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ตั้งแต่ 08.00- 18.00 น.

หลังจากพาเที่ยวชม วัดเล่งเน่ยยี่ 2 กันแบบอิ่มตาอิ่มใจแล้ว วันตรุษจีนปี 2555 นี้ สนุก! ท่องเที่ยว ก็ขอกล่าวคำอวยพรล่วงหน้า ซินเจี่ยยู้อี่...ซินนี้ฮวดใช้  มีความสุข เฮง เฮง เฮง ตลอดปีตลอดไปกันนะครับ