[ รายละเอียด ] เหรียญพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ วัดสังกัสรัตนคีรี ปี พ.ศ. ๒๕๒0 ส่วนเหรียญรุ่นนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับสาธุชนที่มีจิตศรัทธาในการร่วมทำบุญสบทบทุนในการสร้างพระวิหารแห่งใหม่ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๐ ด้านหน้าและด้านข้างของตัววิหาร เป็นทางขึ้นตกแต่งด้วยลายกระหนก ส่วนบานประตูจำหลักเป็นภาพพุทธประวัติอย่างสวยงาม ภายในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวอุทัยธานี ในครั้งนั้นทางวัดได้มีการจัดงานสมโภช "พระวิหาร" ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ พัทธสีมา วัดสังกัสรัตนคีรี ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงในสมัยนั้นหลายท่านด้วยกันมาร่วมปลุกเสก เช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง หลวงพ่อโอด วัดจันเสน เป็นต้น
พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ วัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง จ.อุทัยธานี
วัดสังกัสรัตนคีรี เป็นวัดที่เก่าแก่ของจังหวัดอุทัยธานี ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๕ บ้านวังยาง หมู่ที่ ๓ ต.น้ำซึม เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี อ.เมือง จ.อุทัยธานี เชิงเขาแก้วหรือเขาสะแกกรัง สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๓๓ เดิมเรียกชื่อว่า วัดเขาสะแกกรัง ซึ่ง พระสุนทรมุนี (ใจ คงฺคสโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้สร้างวัดขึ้นบริเวณเชิงเขาแก้วหรือเขาสะแกกรัง
วัดสังกัสรัตนคีรีเป็นที่ตั้งของพระวิหารพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ โดยพระวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๐ ด้านหน้าและด้านข้างของตัววิหาร เป็นทางขึ้นตกแต่งด้วยลายกระหนก ส่วนบานประตูจำหลักเป็นภาพพุทธประวัติอย่างสวยงาม ภายในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวอุทัยธานี
ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๓๓๕-๒๓๔๒ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ ประบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำพระพุทธรูปที่ชำรุดไปซ่อม แล้วนำไปไว้ยังหัวเมืองต่างๆ จ.อุทัยธานี ได้รับมา ๓ องค์ และหนึ่งในจำนวนนั้นคือ พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์
พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ หรือ หลวงพ่อมงคล วัดสังกัสรัตนคีรี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าลิไท เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย วัสดุสำริด มีขนาดหน้าตักกว้าง ๓ ศอก หรือ ๑๕๐ เซนติเมตร ศิลปะสมัยสุโขทัย
ยุคเดียวกับพระพุทธชินราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช แห่งกรุงสุโขทัย ระหว่างปีพุทธศักราช ๑๘๒๑-๑๘๖๐ ฝีมือช่างสุโขทัยยุค ๒ มีส่วนเศียรกับส่วนองค์พระเป็นคนละองค์ เข้าใจว่าคงซ่อมเป็นองค์เดียวกันก่อนนำมาไว้ที่เมืองอุทัยธานี
เดิมประดิษฐานอยู่เบื้องหน้าพระประธานในพระวิหารวัดขวิด บ้านสะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ปัจจุบันมีอายุประมาณ ๖๐๐-๗๐๐ ปี ได้อัญเชิญมาจากสุโขทัยมาทางแม่น้ำสะแกกรัง มาประดิษฐาน ณ วัดขวิด โดยอัญเชิญขึ้นแพมาพร้อมกับพระพุทธรูปองค์อื่นๆ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้นำพระพุทธรูปขนาดย่อมและชำรุดไปไว้ตามหัวเมืองต่างๆ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๓๕-๒๓๔๒ สำหรับเมืองอุทัยธานีได้รับถึง ๓ องค์คือ พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ พระโพธิ์มงคล และพระที่วัดหนองแกมาจากสุโขทัย แล้วได้นำไปขึ้นที่ท่าแพ ใกล้ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี
พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดขวิด ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรังฝั่งตะวันตก ราวพุทธศักราช ๒๓๔๒-๒๓๔๕
ครั้นพุทธศักราช ๒๔๗๑ เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เจ้าคณะมณฑลนครสวรรค์ ในขณะนั้น ท่านเป็นชาวจังหวัดอุทัยธานี ได้เดินทางมาตรวจวัดวาอารามที่จังหวัดอุทัยธานี ได้พบเห็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่งดงามมาก จึงมีความเลื่อมใสและศรัทธาเป็นอย่างมาก เมื่อได้กราบนมัสการสักการะแล้ว จึงโปรดให้ พระมหาพุฒ หรือพระราชอุทัยกวี เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) ดูแลรักษาพระพุทธรูปองค์นี้ไว้ให้ดี
ครั้นถึงวันพุธขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีชวด พุทธศักราช ๒๔๗๑ หลวงพ่อป๊อก (พระครูอุเทศธรรมวิจัย) พระอาจารย์ผู้เรืองเวทย์แห่งวัดโบสถ์ พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนในจังหวัด ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญ หลวงพ่อพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐานที่วัดสังกัสรัตนคีรี
มีพิธีเฉลิมฉลองสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ไว้ภายในพระเศียรของหลวงพ่อด้วย วันขึ้น ๓-๘ ค่ำ เดือน ๔ ของทุกปี ประชาชนชาวอุทัยธานีจะร่วมกันจัดงานไหว้พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้จัดมาเป็นประจำทุกปีจนกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้ ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาจะเข้าไปกราบไหว้ ขอพรและโชคลาภ จากหลวงพ่อพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดสังกัสรัตนคีรี ไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน
สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปที่วัดสังกัสรัตนคีรี ขอให้สังเกตว่า วัดตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาสะแกกรัง สุดถนนท่าช้าง ในเขตเทศบาลเมือง อยู่ตรงข้ามศาลาประชาคมจังหวัดอุทัยธานี ต้องจอดรถยนต์แถวตลาด แล้วเดินเท้าข้ามสะพานไปอีกฝั่งของแม่น้ำสะแกกรัง |