วัตถุมงคล: เครื่องราง ของขลัง
ควายธนู หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ นครศรีธรรมราช ยุคแรก (ตัวที่1) 27-01-2564 เข้าชม : 3862 ครั้ง |
| [ ชื่อพระ ] ควายธนู หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ นครศรีธรรมราช ยุคแรก (ตัวที่1) | [ รายละเอียด ] ควายธนู หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ นครศรีธรรมราช ยุคแรก สภาพสุดคลาสสิค นานๆจะพบอีกละคราฟ
หลวงปู่จันทร์ ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า แม้กระทั่ง "ขุนพันธรักษ์ราชเดช" มือปราบหนังเหนียว ยังมาฝากตัวเป็นศิษย์ขอเรียนวิชา เครื่องรางควายธนูพ่อท่านจันทร์ ถือเป็นควายธนูหนึ่งเดียวของเมืองใต้ หลวงพ่อจันทร์" ท่านได้เล่าให้บรรดาศิษย์ฟังภายหลังว่าจิตสงบดีแล้วเหตุการณ์อันอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น ทำให้เห็นอักขระแบบภาษาขอมลอยขึ้นเด่นชัด จากริมแม่น้ำลำป่า ไปอยู่ในท่ามกลางอากาศก็ได้กำหนดอักขระเหล่านั้นมาพิจารณา แล้วทำอุบายเพ่งเป็นกสิณ โดยอาศัยอักขระโบราณที่ปรากฏมาเป็นนิมิตหมายแห่งการบำเพ็ญเพ่งเป็นองค์กสิณ ยิ่งนานวันความสงบยิ่งแนบแน่นตามลำดับ เมื่อความมืดมาปกคลุมไปทั่วลุ่มน้ำลำป่าจังหวัดพัทลุง บริเวณภายนอกกลดอากาศเย็นเป็นพิเศษ ขณะ "หลวงปู่จันทร์" และหมู่คณะของท่านนั่งกำหนดจิตอยู่ ทันใดนั้นความเงียบก็ถูกทำลายด้วยอำนาจเสือโคร่งตัวโต เสียงร้องของมันขู่ข่มขวัญทุกคนที่ได้ยิน มันเดินไปวนมาข้างๆ กลดเพราะได้กลิ่นมนุษย์ พระธุดงค์ดังกล่าวได้ปฏิบัติตามคำเตือนให้อยู่ในความสงบ นั่งปฏิบัติกันโดยปกติ เสือเหมือนมาทดสอบจิตใจเมื่อพระธุดงค์ทุกท่านมีมานะอดทนที่แน่วแน่ พร้อมทั้งแผ่เมตตาไปยังเสือตัวนั้นในที่สุดเสือโคร่งก็สิ้นความพยายามผละหายกลับไปในป่าลึก จากการเดินธุดงค์ไปทั่วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ต่อมาในปี พ.ศ.2491 พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ ท่านได้จำพรรษาที่วัดทุ่งเฟื้อ เพราะเล็งเห็นว่าเหมาะแก่การเจริญวิปัสสนาสมาธิเป็นอย่างยิ่ง จากอดีต วัดทุ่งเฟื้อ ที่เคยมีสภาพทรุดโทรม ก็ได้รับการพัฒนาเปิดป่า เปลี่ยนเป็นศาลาโรงธรรม หอระฆัง พระอุโบสถและกุฏิสงฆ์ขึ้นมาตามลำดับ ต่อมา "หลวงปู่จันทร์ สุเมโธ" วัดทุ่งเฟื้อ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งเฟื้อ อย่างสมบูรณ์ พระสงฆ์ต่างจังหวัดและชาวบ้านต่างมาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านเป็นจำนวนมาก เพื่อศึกษาตำราพิชัยสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด แต่งคนเลิศดีนักแลฯ ถือเป็นวิชาสุดยอดทั้งนั้นและหลวงพ่อจันทร์ก็เคยเดินทางไปศึกษาวิชากับอาจารย์เอียดดำ วัดในเขียวอีกด้วย หลวงพ่อจันทร์ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติจนเกิดฌานจนแก่กล้า ดังบันทึกของคณะศิษย์วัดทุ่งเฟื้อทุกๆ สาย "คืนวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2532 ท่านเข้าสมาธิภาวนาตั้งแต่หัวค่ำด้วยอิริยาบถอันสงบ แม้อาการป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอด ท่านก็ไม่ทอดธุระเรื่องภาวนาตลอดคืน จนเวลา 05.00 น. อันเป็นเวลาใกล้สว่าง ท่านได้ให้บรรดาศิษย์ช่วยกันพยุงกายให้ลุกขึ้น เพราะนั่งสมาธิมาตั้งแต่หัวค่ำ เรี่ยวแรงก็น้อยลง จากนั้นท่านได้เปลี่ยนสบง จีวร สังฆาฏิ แล้วบอกให้ลูกศิษย์ประคองให้นั่งลงทำสมาธิต่อไป หลังจากฉันอาหารเช้าแล้ว ท่านก็หลับตาลง และลูกศิษย์จุดเทียนไว้เบื้องหน้าหนึ่งเล่ม และสั่งไม่ให้ใครมาส่งเสียงบริเวณนั้นเพราะท่านจะทำสมาธิครั้งสุดท้าย เมื่อกล่าวแก่ศิษย์ทุกคนแล้วท่านก็หลับตาลงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกำหนดจิตเข้าสู่สมาธิ เป็นลำดับ เวลา 08.30 น. บรรดาลูกศิษย์ ที่เฝ้าดูอาการของพ่อท่านจันทร์ เห็นผิดสังเกต เพราะศีรษะของท่านโน้มเอียงลงมาเล็กน้อย ซึ่งปกติท่านจะนั่งตัวตรงไม่ไหวติง ศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิด จึงทราบว่าท่านได้มรณภาพแล้ว ตรงกับวันที่ 10 พฤศจิกายน 2532 ทั้งนี้ วิชาอาคม หยุดกระสุนปืน และป้องกันศาสตราวุธต่างๆ เป็นที่ยอมรับว่าท่านเป็นยอดไม่เป็นรองใครในใต้ล่าด้ามขวานทอง แถมท่านยังได้ชื่อว่าเป็น "เทพเจ้าเหล็กไหล" ในด้านอิทธิมงคลวัตถุของพ่อท่านจันทร์ นั้นมีอานุภาพดีเด่นในทางพุทธคุณสูง อานุภาพสูงส่งจากประสบการณ์ผู้นำติดตัวไปใช้ก็มีมากมาย จึงเป็นที่หวงแหนของผู้ที่ครอบครองไว้ สำหรับความรู้สึกของศิษยานุศิษย์ที่ได้เรียนวิชาคงกระพัน วิชาชาตรี วิชาแคล้วคลาด วิชามหาอุด วิชาแต่งคน และรับมอบอิทธิวัตถุมงคลของหลวงพ่อจันทร์ พูดได้ว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว ท่านสร้างไว้หลายอย่าง เช่น ควายธนู, รูปหล่อ, เหรียญรูปเหมือน, พระปิดตา, พระกริ่งเหล็กไหล, ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า, ตะกรุด, พระสมเด็จ ฯลฯ เหรียญรุ่นแรก จัดได้ว่าเป็นเหรียญหยุดกระสุนของจริง ส่วนเครื่องรางของขลังอย่าง "ควายธนู" ถือว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์หนึ่งเดียวของภาคใต้ที่สร้างไว้ เพราะไม่ปรากฏว่ามีเกจิสงฆ์ท่านใดสร้างเอาไว้อีก นอกจากศิษย์รุ่นหลังของทางวัดยังคงดำรงวิชาสร้างควายธนูของท่านเอาไว้ เครื่องรางของขลัง "ควายธนู" ของท่าน ยุคแรกๆ สร้างด้วยเนื้อผงพุทธคุณผสมใบลาน เดิมทีท่านไม่ได้สร้างควายธนู เนื่องจากหาวัตถุยากมาก โดยเฉพาะส่วนผสมอย่างหนึ่งคือ ตะไคร่น้ำที่เกิดบนจมูกจระเข้ ซึ่งหายากมาก ภายหลังเมื่อมีการเลี้ยงจระเข้กันมาก ลูกศิษย์สามารถหาให้ได้ พร้อมด้วยวัตถุอาถรรพ์อื่นๆ ท่านจึงได้จัดสร้างขึ้น เริ่มแรกนั้นสร้างแบบเต็มตัว แต่ภายหลังท่านทำเหลือแค่ข้างเดียว เนื่องจากแรงเกินไป ควายธนูของหลวงปู่ เป็นของอาถรรพ์ที่สามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ที่มองไม่เห็น และคุ้มภัยต่างๆ เป็นอย่างดี ปัจจุบันยุคแรกๆถูกลูกศิษย์เช่าหาบูชาเก็บหมด ไม่เห็นอีกแล้ว ดังนั้นจึงเห็นแต่ยุคหลังๆของท่านที่ สร้างมาใหม่ ด้านหลังปั้มเหรียญ ที่สร้างเป็นรุ่นสอง รุ่นสาม ที่สร้างประมาณปี 28 และปี สามกว่า แต่ก็น่าเก็บน่าบูชาเช่นกัน ส่วนตัวนี้ยุคแรกๆแน่นอน หายากนานๆจะเจออีกละคราฟ ******************************************************************************************************************************** ควายธนู" ของหลวงปู่จันทร์นั้น สร้างด้วยเนื้อผงพุทธคุณ ดิน ว่าน ผสมกับใบลาน เดิมทีท่านไม่ได้สร้างควายธนู เนื่องจากหาวัตถุยากมาก โดยเฉพาะส่วนผสมอย่างหนึ่งคือ ตะไคร่น้ำที่เกิดบนจมูกจระเข้ ซึ่งหายากมาก ภายหลังเมื่อมีการเลี้ยงจระเข้กันมาก ลูกศิษย์สามารถหาให้ได้ พร้อมด้วยวัตถุอาถรรพ์อื่นๆ ท่านจึงได้จัดสร้างขึ้น เริ่มแรกนั้นสร้างแบบเต็มตัว แต่ภายหลังท่านทำเหลือแค่ข้างเดียว เนื่องจากแรงเกินไป ควายธนูของหลวงปู่ เป็นของอาถรรพ์ที่สามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ที่มองไม่เห็น และคุ้มภัยต่างๆ เป็นอย่างดี ปัจจุบันถูกลูกศิษย์เช่าหาบูชาเก็บหมด ไม่เห็นอีกแล้ว ควายธนูของท่านถือเป็น ควายธนูหนึ่งเดียวในภาคใต้เลยก็ว่าได้ ที่เป็นเครื่องรางของขลังในยุกต์เก่า แต่ปัจจุบันก็มีการสร้างออกมาบ้างแล้ว เช่นของ หลวงปู่แก้ว วัดสะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งก็ใด้ต้นแบบมาจากควายธนูของหลวงปู่จันทร์ อีกเช่นกัน ควายธนู หลวงพ่อจันทร์ ท่านได้สร้าง ควายธนู ขึ้นมาพร้อม ๆ กับ รัก-ยม ควายธนูหลวงพ่อจันทร์ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่ศิษย์ น้อยคนนักที่จะได้เห็น แต่ควายธนูของหลวงพ่อจันทร์ไปดังอยู่ในบรรดาหมู่นายทหารอากาศ ทั้งที่ดอนเมืองและฐานบินกำแพงแสน เพราะมีนายทหารได้ควายธนูจากหลวงพ่อไปหลายคน อิทธิฤทธิ์ของควายธนูหลวงพ่อจันทร์คงไม่ต้องพูดถึง ผู้ที่ได้รับจากมือท่านไปเองกลับไปกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นสุดยอด ดังนั้นส่วนใหญ่พวกทหารอากาศจากกรุงเทพฯ มาเอาจากท่านจนหมด และท่านไม่คิดทำอีกเลย เพราะสร้างได้ยากมาก และที่สำคัญที่สุดท่านกลัวว่า ผู้ที่ได้รับของดีนี้ไปจะนำไปใช้นอกลู่นอกทาง นอกรีต นอกรอย เพราะ ผู้ที่สมควรได้ครอบครองควายธนูนี้ ต้องมีสมาธิจิตอันแน่วแน่ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม รู้จักเลี้ยงดูควายธนู ซึ่งเครื่องรางอันนี้ปลุกเสกด้วยอำนาจไสยเวทย์ฉะนั้นในการอธิษฐานจิต ควรอธิษฐานในเรื่องที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม จึงจะบังเกิดผลมีอิทธิปฏิหาริย์ตามที่อธิษฐาน ควายธนูของท่านที่สร้างมี สอง ขนาด คือเล็กกับใหญ่ ตัวเล็กสำหรับนำไปอัดกรอบห้อยคอ ตัวใหญ่ไว้ประจำบ้าน หรือไว้เฝ้าบ้านนั่นเอง ควายธนู ของหลวงพ่อจันทร์ จะมีส่วนประกอบจำพวก ข้าวเหนียวดำ, ดินสี่มุมของวัดสร้าง, ดิน 7 ป่าช้า, ผงศักดิ์สิทธิ์โบราณ, ยางขนุน, ยางมะม่วงหิมพานต์ เป็นอาทิ.อิทธิฤทธิ์ เท่าที่ทราบมาจากผู้ที่มีไว้ในครอบครอง แต่ไม่ประสงค์ให้ออกนามท่านหนึ่ง สมมุติชื่อว่า ส. บอกว่า เรื่องภัยจากโจรผู้ร้าย นักย่องเบาอย่างนี้ อย่าหวังเลยว่าจะทำการได้สำเร็จ ซึ่งเคยไปปล้นบ้านของคุณ ส. แต่ปฏิบัติการไม่สำเร็จ ซึ่งเคยพยายามอยู่หลายครั้งแล้ว ด้วยความสงสัยจึงไปหาคุณ ส.พร้อมเปิดเผยความจริงให้ทราบว่า จะเข้าปล้นบ้าน แต่พอถึงหน้าบ้านจะพบ ควายตัวมหึมา ป้วนเปี้ยนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน นับได้เป็นสิบ ๆ ตัว จึงตกใจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ เป็นอยู่อย่างนี้ 3 คืน ติด ๆ กัน อยากจะทราบว่าคุณ ส. มีอะไรดี คุณ ส. ก็นึกถึงควายธนูหลวงพ่อจันทร์ขึ้นมาทันที และนำออกมาให้เขาดู พร้อมกันนั้นก็บอกว่า อย่าว่าแต่โจรผู้ร้ายเลย อสรพิษสักตัวก็มิกล้าเข้าใกล้ เพื่อนคุณ ส. ที่เป็นทหารอากาศอยู่ดอนเมืองซึ่งได้ควายธนูจากหลวงพ่อจันทร์ไปบูชาด้วย เคยเล่าให้ฟังว่า วันดี คืนดี ควายธนูของแกขี้ออกมาเป็นหญ้า เกร็ดเล็ก ๆ ออกมาให้เห็นด้วย..... ทางโชคลาภก็ดีได้เคยอธิษฐานขอลาภ ไปซื้อล็อตเตอรี่ มักจะถูกรางวัลอยู่เนือง ๆ โดยเฉพาะ รางวัลที่ 5 และเลขท้าย 3 ตัว . ( บทสัมภาษจากหนังสือลานโพธิ์ โดยคุณสถาพร ที่ไปพบกับท่านและได้นำมาลงตีพิมพ์โดยหนังสือพระเครื่องของลานโพธิ์ เมื่อครั้ง ก่อนที่พ่อท่านจันทร์ยังไม่มรณะภาพ) ****คาถาบูชาควายธนู**** โอมทักษิณา ทิสายะมา เทวะตา สะหะคะณะ ปะริวาลา อาคัจฉันตุ. ********************************************************************************************************วิธีบูชาให้ใส่ในพานปูผ้าขาวหให้ตั้งบนหิ้งบูชารวมกับพระก็ได้ แต่ให้ต่ำกว่าพระ ธูปห้าดอก และหญ้าในวันอังคาร หรือวันพฤหัสบดี และวันเสาร์ วันใดวันหนึ่งก็ได้แล้วแต่ท่านจะมีความปรารถนาตามความประสงค์ของท่านเอง | [ ราคา ] โทรถาม [ สถานะ ] ขายแล้ว
[ติดต่อเจ้าของร้านเกจิน้อย พระเครื่องออนไลน์ ] เบอร์โทรศัพท์ : 081-4070684 | |
|