พระรัตนธัชมุนี เจ้าคุณม่วง วัดท่าโพธิ์ นครศรีธรรมราช
เหรียญพระรัตนธัชมุนี (เจ้าคุณม่วง) รุ่นแรกสร้างเมื่อ พ.ศ.2476 เหรียญเจ้าคุณม่วง เป็นเหรียญยอดนิยมเหรียญหนึ่งของนครศรีธรรมราช
เหรียญพระรัตนธัชมุนี (ท่านเจ้าคุณม่วง) รุ่นแรก พ.ศ.2476
เหรียญพระรัตนธัชมุนี (ท่านเจ้าคุณม่วง) รุ่น2 พ.ศ.2480
พระรัตนธัชมุนี หรือท่านเจ้าคุณม่วง วัดท่าโพธิ์ เป็นบุคคลสำคัญ ต่อพระศาสนาและการศึกษาในภาคใต้ ท่านได้สร้างประโยชน์มากมายทางด้านการศึกษาและพัฒนาบ้านเมือง คุณประโยชน์แก่พระศาสนา ท่านเป็นผู้นำจัดการศึกษาในภาคใต้ ท่านเจ้าคุณม่วง เป็นที่เคารพของคนจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ ดังสีประจำจังหวัดของนครศรีธรรมราช ก็ใช้ "สีม่วง" เพื่อระลึกถึงท่านและเป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งอย่างท่าน พระรัตนธัชมุนี หรือท่านเจ้าคุณม่วง วัดท่าโพธิ์
ท่านเจ้าคุณม่วง หรือพระรัตนธัชมุนี อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดท่าโพธิ์
ท่านเจ้าคุณม่วง หรือพระรัตนธัชมุนี อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระเกจิอาจารย์เรืองนามองค์หนึ่งในสมัยของรัชกาลที่ 5 เจ้าคุณม่วงผู้ซึ่งมีบทบาทหน้าที่สำคัญยิ่งในด้านการสร้างคุณประโยชน์แก่พระศาสนา การศึกษาและการพัฒนาบ้านเมือง โดยเป็นผู้ริเริ่มและบุกเบิกการศึกษาของภาคใต้ และวางรากฐานการศึกษาจนเจริญมาตราบเท่าทุกวันนี้
ชาติภูมิของท่านเจ้าคุณม่วงเป็นชาวบ้านเพิง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2396 ได้เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรมมาตั้งแต่ยังเป็นสามเณร และเข้าอุปสมบทที่วัดท่าโพธิ์ โดยมีพระครูการาม (จู) เจ้าอาวาสในขณะนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้อยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ตลอดมาจนได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ จากพระครูการาม(จู)
ปี พ.ศ.2432 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจการพระศาสนาในหัวเมืองภาคใต้ เจ้าคุณม่วงได้เข้าเฝ้าหลายครั้ง และมีความเลื่อมใสในพระองค์มาก จึงทูลขอตามเสด็จมาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ โดยโปรดให้พักอยู่ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม และบวชแปลงจากมหานิกายมาเป็นธรรมยุตนิกาย ต่อมาเมื่อสอบไล่แปลพระปริยัติธรรมได้เปรียญ 4 ประโยคแล้ว เจ้าคุณม่วงจึงลากลับไปอยู่วัดท่าโพธิ์ตามเดิม
ปี พ.ศ.2441 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสหัวเมืองภาคใต้ และได้แวะประทับ ณ เมืองนครศรีธรรมราช เจ้าคุณม่วงซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระมหาได้เข้าเฝ้าหลายครั้งด้วยกัน เมื่อทรงทราบว่าเป็นผู้เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติและพระธรรมวินัย ประกอบกับว่าเป็นสหชาติ (เกิดปีเดียวกัน) จึงทรงตั้งให้เป้นพระราชาคณะที่ พระศิริธรรมมุนี
ในปีต่อมา พ.ศ.2442 โปรดเกล้าฯให้เป็นเจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราช ซึ่งสมัยนั้นมีอาณาเขตตลอดไปถึง จ.ปัตตานี มีหน้าที่อำนวยการศึกษาในมณฑลด้วย ท่านได้จัดการบริหารกิจการคณะสงฆ์และการศึกษาได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่โปรด ปรานของรัชกาลที่ 5 และต่อมาท่านเจ้าคุณม่วงได้เลื่อนสมณศักดิ์สูงขึ้นตามลำดับจนกระทั่งเป็น พระรัตนธัชมุนี ในปีพ.ศ.2466 สมัยรัชกาลที่ 6
ผลงานสำคัญของท่านเจ้าคุณม่วงคือ จัดตั้งโรงเรียนราษฎร์ขึ้นที่หอฉันวัดท่าโพธิ์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2434โดยเป็นผู้อำนวยการสอนเอง และมีพระภิกษุจรจากมหามกุฏราชวิทยาลัย กรุงเทพฯมาเป็นครูผู้ช่วย ซึ่งต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นโรงเรียนหลวงมีชื่อว่า โรงเรียนสุขุมาภิบาลวิทยา แล้วเปลี่ยนมาเป็น เป็น ศรีธรรมราช มีฐานะเป็นโรงเรียนตัวอย่างประจำเมืองนครศรีธรรมราช ปัจจุบันคือ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นับเป็นโรงเรียนเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุด และมีรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของท่านประดิษฐานอยู่
เจ้าคุณม่วงได้ปฏิบิตหน้าที่ผู้อำนวยการศึกษามณฑลนครศรีฯด้วยความเสียสละและ อดทน โดยเดินทางออกตรวจและจัดการโรงเรียนตามอำเภอต่างๆ ของเมืองนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา จะนะ เทพา หนองจิก ตานี ยะหริ่ง และสายบุรีเป็นเวลาถึง 190 วัน จัดตั้งโรงเรียนได้ 21 โรง โดยใช้ทุนจากเงินที่ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนช่วยกันเรี่ยไรบริจาคมาดำเนินการเป็นส่วนใหญ่
สมัยนั้นการคมนาคมเต็มไปด้วยความยากลำบาก โดยมากจะเป็นการเดินทางด้วยเรือแจวและเรือพาย บางครั้งก็ต้องเดินเท้า บางแห่งเป็นป่าก็ต้องใช้ช้างเป็นพาหนะ หรือไม่ก็ต้องนอนค้างแรมในเรือ แต่ท่านก็ฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายมาได้อย่างราบรื่น โดยมีข้าราชการและผู้นำท้องถิ่น ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
นอกจากจะเป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งโรงเรียนฝ่ายสามัญแล้ว ท่านเจ้าคุณม่วง ยังริเริ่มก่อตั้งแผนกวิชาช่างถม ขึ้นที่ โรงเรียนสุขุมาภิบาลวิทยา เป็นโรงเรียนแรก ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเบญจมราชูทิศ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมอัมีค่าของท้องถิ่นให่มีอายุยืนยาว สืบไป สละเงินนิตยภัตของท่านเป็นเงินเดือนครูและค่าใช้จ่ายอื่นๆ จนกระทั่งทางราชการได้รับช่วงไปเป็นโรงเรียนหลวงประเภทวิสามัญ
ด้วยเหตุที่ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ต่อการพระศาสนา การศึกษา และสังคมไว้อย่างมาก รวมทั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ที่ให้การอุปสมบทกุลบุตรไว้มากมายจึงทำให้มีลูก ศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก ดังนั้น ในปี พ.ศ.2476 ซึ่งท่านมีอายุครบ 80 ปี บรรดาศิษย์จึงพร้อมใจกันจัดงานทำบุญอายุ และสร้างล็อกเกต และเหรียญที่ระลึกเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นเหรียญเพียงรุ่นเดียวที่สร้างในสมัยที่ท่านเจ้าคุณม่วงยังมีชีวิตอยู่
เหรียญเจ้าคุณม่วง นี้นับเป็นเหรียญนิยมเหรียญหนึ่งของ จ.นครศรีธรรมราช สภาพสวยๆ เล่นหากันหลายหมื่น ลักษณะเป็นรูปอาร์ม หูในตัว ปลุกเสกโดยเสกโดยเกจิดังสมัยนั้นหลายท่าน อาทิ พระครูกาแก้ว วัดหน้าพระธาตุ พระครูกาชาด วัดใหญ่ พ่อท่านซัง วัดวัวหลุง พระครูแก้ว วัดสิชล พระครูวิสุทธิจารี วัดจันพอ ฯลฯ
เจ้าคุณม่วงถึงกาลมรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2477 รวมอายุได้ 82 ปี 62 พรรษา ทรงมำพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้รับงานบำเพ็ญกุศลศพไว้ในพระบรม ราชูปถัมภ์ และพระราชทานโกศโถเป็นเกียรติยศ ในงานพระราชทานเพลิงศพมีประชาชนนับหมื่นมาเข้าขบวนแห่โกศศพจากวัดท่าโพธิไป สู่เมรุสนามหน้าเมืองซึ่งสร้างเป็นกรณีพิเศษ ขบวนแห่นั้นยาวถึง 100 เส้น นับเป็นขบวนที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราชเลยทีเดียว |