ประวัติของเทพตรีมูรติ 
       

       “เทพตรีมูรติ” เป็นรูปหนึ่งของพระวิษณุ (นารายณ์) ในศาสนาฮินดู ที่รวมเทพทั้งสามไว้ในพระองค์ มีพระเศียร 3 เศียร แทนพระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ เป็นการรวมพลังของเทพทั้งสามไว้ในร่างเดียว ได้แก่ การสร้างโลก เป็นพลังของพระพรหม รักษาโลก เป็นพลังของพระวิษณุ (นารายณ์) และทำลายโลก เป็นพลังของพระอิศวร (ศิวะ) ซึ่งการรวมตัวกันของ “พลังทั้งสาม” คือการแสดงออกของพลังอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าในสรรพสิ่ง หากมองตามความหมายในทางธรรม ความเชื่อของศาสนาฮินดูแล้ว การบูชา “เทพตรีมูรติ” คือ การที่บุคคลนั้นกำลังบูชาเพื่อรับรู้ และเข้าถึงสภาวธรรมทั้งสามอันได้แก่ การสร้าง การดำรงอยู่ และแตกสลายไปของสิ่งทั้งปวง ต่อมาความเชื่อที่สืบทอดกันมาในแต่ละยุคแต่ละสมัยมีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาต่อเนื่องกันมาตามลำดับ เทพตรีมูรติ ได้รับการเทิดทูนจนกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของการประทานความรัก และความสมหวังให้มวลมนุษย์ผู้ถวิลหาความรักไปแล้วในปัจจุบัน

การเดินทางมาสถานที่ 

       ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีรถประจำทางหลายสายผ่าน จะมาด้วยรถไฟฟ้า BTS ก็ลงสถานีชิดลมแล้วเดินอีกหน่อย มาทางเรือเส้นคลองแสนแสบก็ลงที่ท่าประตูน้ำ เกือบถึงที่เลย หรือถ้าเอารถมาเองก็จอดในห้าง ค่าจอดมีการเปลี่ยนแปลงอัตราใหม่เป็น 4 ชม.แรกจอดฟรี รูปปั้นของเทพตรีมูรติ จะอยู่บริเวณลานหน้าห้าง ด้านถนนราชดำริ ตรงข้ามบิ๊กซี นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นองค์พระพิฆเนศตั้งอยู่คู่กันให้ได้สักการะบูชาอีกด้วย เวลาที่เหมาะสมในการไหว้ขอพรคือเวลาประทับทรง 9.30 น. และ 21.30 น.

วิธีการบูชา 

       การไหว้ขอพรเทพตรีมูรติ จะใช้ของ “สีแดง” ในการบูชา ได้แก่ ธูปสีแดง 9 ดอก เทียนสีแดง 1 เล่ม พวงมาลัย ดอกกุหลาบสีแดง และอาจมีของสักการะอย่างอื่นเช่น ผลไม้ น้ำ ด้วยก็ได้ แต่เน้นว่าให้เป็นสีแดงแล้วกัน ธูปแดงกับเทียนแดง ทางสถานที่มีการจัดเตรียมใส่กล่องไว้ให้ใช้ฟรี แต่เราก็ควรสมทบทุน บริจาคเงินใส่ตู้ตามกำลังศรัทธาบ้าง เล็กน้อยก็ยังดี พวงมาลัยแดงอาจหาซื้อแถวนั้นได้ถ้าไม่ได้เตรียมมา
       ทางสถานที่ได้จัดทำบทสวดขอพร ใส่แท่นพลาสติกใสตั้งไว้ให้ผู้ที่มากราบไหว้ได้อ่านตาม มีทั้งหมด 3 แท่นด้วยกัน เพื่อที่จะได้แบ่งกันท่องแบ่งกันอ่านได้กรณีที่คนมากันเยอะ ๆ

       เสร็จจากการไหว้เทพแห่งความรักแล้ว ยังมีองค์พระพิฆเนศที่เป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จตั้งอยู่ข้าง ๆ จะไปกราบไหว้เป็นมงคลด้วยก็เป็นการดีไม่น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราควรพึงระลึกเสมอว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรัก ความสำเร็จ หรือเรื่องอื่นใด นอกจากจะขึ้นอยู่กับโชคชะตา วาสนาแล้ว ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ผลจากการกระทำของตัวเราเองด้วย เทพองค์ไหนคงช่วยอะไรไม่ได้ถ้าเราไม่ไขว่คว้า แสวงหามาด้วยความพยายามของตัวเราเอง ...